ประกาศความเป็นส่วนตัวสำหรับผู้สมัครงานและพนักงาน

(Applicant and Employee Privacy Notice)

บริษัท ธรรมนิติ จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือ

 

   บริษัท ธรรมนิติ จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือ ซึ่งต่อไปนี้เรียกว่า (“บริษัท”) ได้ตระหนักและให้ความสำคัญกับข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในฐานะพนักงานปัจจุบัน อดีตพนักงาน กรรมการ ที่ปรึกษา ผู้บริหาร นักศึกษาฝึกงาน ผู้สมัครและบุคคลอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับบุคลากรของบริษัท (“ท่าน”) และเพื่อเป็นการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 บริษัทได้จัดทำประกาศความเป็นส่วนตัว ซึ่งแจ้งวิธีที่บริษัทจัดการกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ดังนี้

ข้อ 1.  คำนิยาม

“ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ

“ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว” หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใดซึ่งกระทบต่อเจ้าของข้อมูลในทำนองเดียวกันตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกำหนด

“การประมวลผลข้อมูล” หมายถึง การดำเนินการใดๆ เกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

“บริษัทในเครือธรรมนิติ” หมายถึง บริษัท ฝึกอบรมและสัมมนาธรรมนิติ จำกัด บริษัท สำนักพัฒนาการบริหารธรรมนิติ จำกัด บริษัท ธรรมนิติ เพรส จำกัด บริษัท ดีไอทีซี จำกัด บริษัท สอบบัญชีธรรมนิติ จำกัด บริษัท ธรรมนิติการบัญชีและภาษีอากร จำกัด บริษัท ตรวจสอบภายในธรรมนิติ จำกัด และให้หมายความรวมถึง มูลนิธิธรรมนิติ

 

ข้อ 2.  การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล

               บริษัทจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ผ่านหลายช่องทาง อาทิ ผ่านทางเว็บไซต์ของบริษัท ผ่านทางอีเมล หรือกรณีที่ท่านยื่นใบสมัครด้วยตัวเองผ่านบูธสมัครงานหรือยื่นโดยตรงที่บริษัท รวมไปถึงการสมัครผ่านเว็บไซต์สมัครงาน บริษัทจัดหางาน เป็นต้น โดยข้อมูลที่บริษัทเก็บรวบรวมเพื่อใช้ในการพิจารณาการสมัครนี้ รวมถึงเอกสารประกอบการสมัครทั้งในรูปแบบสำเนาและเอกสารที่ผู้สมัครอัปโหลดผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ

 

ข้อ 3.  ข้อมูลที่บริษัทเก็บรวบรวม

         บริษัท ธรรมนิติ จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือ เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านผ่านหลายช่องทาง โดยแบ่งประเภทของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ดังต่อไปนี้

         3.1 ข้อมูลผู้สมัครงานหรือผู้สมัครฝึกงาน

               เมื่อท่านสมัครงานหรือสมัครฝึกงานกับบริษัท ผ่านทางเว็บไซต์ อีเมล หรือช่องทางติดต่ออื่นๆ บริษัทขอทราบข้อมูลที่จำเป็นต่อการสมัครดังต่อไปนี้

               3.1.1 ตำแหน่งที่สมัคร เงินเดือนที่ต้องการ

               3.1.2 ข้อมูลส่วนบุคคล อาทิ ชื่อ-นามสกุล ชื่อเล่น รูปถ่าย วันเดือนปีเกิด อีเมล เบอร์โทรศัพท์ ที่อยู่ที่สามารถติดต่อได้ ข้อมูลติดต่อ เลขบัตรประจำตัวประชาชน เลขใบอนุญาตขับขี่ อายุ น้ำหนัก ส่วนสูง เพศ สถานภาพทางทหาร สถานภาพการสมรส เป็นต้น

               3.1.3 รายละเอียดบุคคลอื่น อาทิ ข้อมูลบิดา มารดา พี่น้อง ข้อมูลบุคคลติดต่อฉุกเฉิน บุคคลอ้างอิง (หากท่านให้รายละเอียดข้อมูลของบุคคลอื่นหรือข้อมูลที่ระบุถึงบุคคลที่สามอื่นใด ท่านมีหน้าที่ต้องขอรับความยินยอมจากบุคคลที่สามดังกล่าว ก่อนที่จะมอบข้อมูลส่วนบุคคลนั้นให้บริษัท)

               3.1.4 ประวัติการศึกษา ประวัติการฝึกอบรม ความสามารถพิเศษ และประสบการณ์การทำงานของท่าน

               3.1.5 เอกสารประกอบการสมัคร อาทิ CV ประวัติการทำงาน จดหมายแนะนำตัว

               3.1.6 เอกสารเพื่อใช้ระบุตัวตนของผู้สมัคร อาทิ สำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน

               3.1.7 การตอบคำถามคัดกรองเกี่ยวกับการสมัคร

               3.1.8 ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว อาทิ ข้อมูลสุขภาพ

         3.2 ข้อมูลพนักงานและบุคลากร

               3.2.1 งานฐานข้อมูลทะเบียนลูกจ้าง ได้แก่ ชื่อ-นามสกุล ชื่อเล่น รูปถ่าย ที่อยู่ที่สามารถติดต่อได้ เบอร์โทรศัพท์ อีเมล (E-mail) หมายเลขประจำตัวประชาชน วันเดือนปีเกิด วุฒิการศึกษา เพศ เลขบัญชีธนาคาร ทะเบียนรถ เป็นต้น ทางบริษัทฯ จะใช้ข้อมูลสำหรับจัดทำเป็นประวัติพนักงานแยกตามสังกัด เป็นทะเบียนข้อมูลลูกจ้าง ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน โดยจะมีการจัดเก็บเป็นไฟล์ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ และมีการจัดเป็นเป็นแฟ้มข้อมูลแยกตามรายบุคคล ประกอบด้วย ใบสมัครงาน (ที่กรอกข้อมูลโดยเจ้าของข้อมูล) สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาวุฒิการศึกษา สำเนาหนังสือรับรองการทำงาน สำเนาใบผ่านการเกณฑ์ทหาร ผลการตรวจสุขภาพ และสำเนาบัญชีธนาคาร เป็นต้น

               3.2.2 ระบบอินทราเน็ต เป็นการใช้ในการค้นหาข้อมูลภายในผ่านระบบอินทราเน็ตของบริษัท ได้แก่ ชื่อ-นามสกุล เลขประจำตัวประชาชน รูปถ่าย เบอร์โทรศัพท์ ที่อยู่ อีเมล (E-mail) เพศ ทะเบียนรถ หมายเลขใบขับขี่ วันเริ่มงาน อายุงาน ข้อมูลการศึกษา สิทธิการรักษาพยาบาล เป็นต้น เพื่อใช้ระบบฐานข้อมูล ค้นหาเบอร์ติดต่อ หน่วยงาน สังกัด เป็นต้น

               3.2.3 การจ่ายเงินเดือนพนักงาน (Payroll) บนระบบบริหารงานบุคคล (GENiUS HRM) เช่น ชื่อ-นามสกุล วันเดือนปีเกิด วันเริ่มงาน ที่อยู่ หมายเลขประจำตัวประชาชน หมายเลขบัญชีเงินฝากธนาคาร เพศ เป็นต้น ตามรูปแบบความจำเป็นที่ต้องใช้ในการคำนวณการจ่ายเงินเดือนให้กับพนักงาน

               3.2.4 ข้อมูลการชำระภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย (ภ.ง.ด.1/ภ.ง.ด.1ก) โดยมีการใช้ข้อมูล เช่น ชื่อ-นามสกุล หมายเลขประจำตัวประชาชน ตามแบบยื่นรายการภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย ตามมาตรา 59 แห่งประมวลรัษฎากร สำหรับการหักภาษี ณ ที่จ่ายตามมาตรา 50 (1) กรณีการจ่ายเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 (1) (2) 

               3.2.5 ข้อมูลเกี่ยวกับประกันสังคม ประกอบด้วย การแจ้งผู้ประกันตนเข้าทำงาน การชำระเงินสมทบกองทุนประกันสังคม การแจ้งลาออก โดยมีการใช้ข้อมูล เช่น ชื่อ-นามสกุล หมายเลขประจำตัวประชาชน เป็นต้น ตามแบบรายละเอียดการนำส่งเงินสมทบ (สปส.1-10) แบบแจ้งผู้ประกันตนเข้าทำงาน (สปส.1-03) แบบแจ้งการลาออกของผู้ประกันตน (สปส.6-09)

               3.2.6 ข้อมูลเกี่ยวกับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เช่น ชื่อ-นามสกุล หมายเลขประจำตัวประชาชน วันเดือนปีเกิด วันเริ่มงาน ผู้รับผลประโยชน์ เป็นต้น

               3.2.7 การพัฒนาพนักงาน เช่น ชื่อ-นามสกุล หมายเลขประจำตัวประชาชน เป็นต้น สำหรับการขอเข้ารับการอบรมทั้งภายใน และภายนอก เพื่อพัฒนาความรู้ ความสามารถ 

               3.2.8 งานสวัสดิการ เช่น ชื่อ-นามสกุล หมายเลขบัญชีเงินฝากธนาคาร เป็นต้น ประกอบการเบิกจ่าย สวัสดิการ ประกอบด้วย เงินช่วยเหลือสวัสดิการต่างๆ

               3.2.9 สิทธิค่ารักษาพยาบาล เช่น ชื่อ-นามสกุล วันที่เข้ารับการรักษา สาเหตุของอาการ    ค่ารักษาพยาบาล เป็นต้น เพื่อใช้ในเบิกจ่ายตามสิทธิค่ารักษาพยาบาล ตามวงเงินการรักษาของแต่ละบุคคล และสวัสดิการช่วยเหลือพนักงาน

               3.2.10 การออกหนังสือรับรองการทำงาน และเงินเดือน เช่น ชื่อ-นามสกุล วันเริ่มงาน ตำแหน่ง สังกัด อัตราเงินเดือน เป็นต้น เพื่อยื่นรับรองข้อมูลของพนักงานให้กับหน่วยงานภายนอก  

               3.2.11 การประเมินผลงาน เช่น ชื่อ-นามสกุล วันเริ่มงาน ตำแหน่ง สังกัด อัตราเงินเดือน เพื่อใช้ในการพิจารณาผลการปฏิบัติงานประจำปี สำหรับการปรับเงินเดือน จ่ายโบนัส รวมถึงการโยกย้ายหน้าที่ และปรับเลื่อนตำแหน่ง

               3.2.12 การบันทึกเวลาการทำงาน และบันทึกการเข้าออกอาคาร เช่น ชื่อ-นามสกุล, รหัสพนักงาน, ภาพถ่าย เป็นต้น

               3.2.13 การลางาน (Leave Online) บนระบบอินทราเน็ต เช่น ชื่อ-นามสกุล วันเริ่มงาน สิทธิการลางาน เป็นต้น สำหรับการบันทึกสถิติการลางานของพนักงานแต่ละบุคคล

               3.2.14 กิจกรรมภายใน ภายนอกบริษัท เช่น ข้อมูลสำหรับการลงทะเบียน ภาพและเสียง  ทั้งภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว

         3.3 ข้อมูลกรรมการและผู้ถือหุ้น

               3.3.1 บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของกรรมการ เช่น สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน ชื่อ นามสกุล เพศ รูปถ่าย วันเดือนปีเกิด ที่อยู่ สำเนาบัญชีธนาคาร สถานะการสมรส ข้อมูลครอบครัว อีเมล เบอร์โทรศัพท์ ประวัติการศึกษา อาชีพ ประวัติการทำงาน ข้อมูลสุขภาพ เป็นต้น

               3.3.2 บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ถือหุ้น เช่น ชื่อ นามสกุล เบอร์โทรศัพท์ อีเมล อาชีพ วันเดือนปีเกิด เลขบัตรประจำตัวประชาชน บัญชีธนาคาร จำนวนหุ้น เลขหมายใบหุ้น ทะเบียนผู้ถือหุ้น สำเนาบัตรประชาชน เป็นต้น  

         3.4 ข้อมูลผู้สมัครรับทุนการศึกษา

มูลนิธิธรรมนิติเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของผู้สมัครรับทุนการศึกษา ที่ได้รับผ่าน ตัวแทนมหาวิทยาลัยของผู้สมัคร มูลนิธิธรรมนิติจะเก็บข้อมูล อาทิเช่น ข้อมูลในการกรอกแบบฟอร์มขอรับทุน ชื่อ-นามสกุล วันเดือนปีเกิด รหัสประจำตัวนักศึกษา เลขบัตรประจำตัวประชาชน เลขบัญชีเงินฝาก ที่อยู่ ข้อมูลครอบครัว ข้อมูลอาจารย์ที่ปรึกษา สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน เป็นต้น

         3.5 ข้อมูลอื่นๆ

บริษัทอาจจัดเก็บข้อมูลคุกกี้ (Cookie) หรือข้อมูลการเข้าออกเว็บไซต์ (Log Files) ของท่าน โดยจะจัดเก็บข้อมูลดังนี้ หมายเลขไอพี (IP Address) หรือ เวลาการเข้าใช้งาน เป็นต้น

โปรดทราบว่าหากท่านไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความจำเป็นต่อการสมัคร การปฏิบัติตามสัญญา การเข้าทำสัญญา หรือการปฏิบัติตามกฎหมายแก่บริษัท บริษัทอาจจะไม่สามารถพิจารณาจ้างงานหรือการฝึกงานของท่านได้หากปราศจากข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว

การเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว เกี่ยวกับ เชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ศาสนา ปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม จะอยู่ภายใต้ความยินยอมของท่าน เว้นแต่จะเป็นการเก็บ ใช้ เปิดเผยหรือส่งต่อซึ่งข้อมูลส่วนบุคคล ที่ได้รับยกเว้นไม่ต้องขอความยินยอมตามกฎหมาย

 

ข้อ 4.  ระยะเวลาการเก็บข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทจะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายในระยะเวลาที่จำเป็นตามวัตถุประสงค์ในการประมวลผลหรือภายในระยะเวลาตามที่กฎหมายระบุไว้ ภายใต้มาตรฐานความมั่นคงปลอดภัยที่เหมาะสม โดยมีระยะเวลาการเก็บข้อมูล ดังนี้

               4.1 บริษัทจะจัดเก็บข้อมูลการสมัคร เพื่อพิจารณาการรับเข้าทำงาน ภายในระยะเวลา 30 วัน นับแต่ที่บริษัทได้รับข้อมูลดังกล่าว

               4.2 บริษัทจะจัดเก็บข้อมูลพนักงานและบุคลากร เป็นระยะเวลา 2-7 ปี นับแต่พ้นสภาพการเป็นลูกจ้าง

               4.3 บริษัทจะจัดเก็บข้อมูลผู้สมัครรับทุนการศึกษา เป็นระยะเวลา 2 ปี ภายหลังจากการสิ้นสุดการมอบทุนครบจำนวน

 

ข้อ 5.  วัตถุประสงค์การเก็บข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามที่ท่านได้ให้มา เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ภายใต้ฐานตามกฎหมาย ดังต่อไปนี้

  1. ฐานสัญญา (Contract) เพื่อเป็นการจำเป็นเพื่อปฏิบัติตามสัญญาซึ่งท่านเป็นคู่สัญญากับบริษัท หรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนเข้าทำสัญญานั้นหรือเพื่อใช้ในการดำเนินธุรกิจของบริษัท ให้ลุล่วงไปได้ด้วยดี อาทิ การคัดเลือกผู้สมัครงาน ผู้สมัครฝึกงาน ผู้สมัครขอรับทุน การติดต่อกับผู้สมัครเพื่อนัดหมายสัมภาษณ์หรือแจ้งผลการสมัคร การจ้างตามสัญญาจ้างแรงงาน การฝึกอบรม การประเมินผลการปฏิบัติงาน การจ่ายค่าจ้างหรือค่าตอบแทน การพิจารณาโยกย้าย เลื่อนตำแหน่งงาน พิจารณาปรับเงินเดือน โบนัส เป็นต้น
  2. ฐานความยินยอม (Consent) กรณีที่บริษัทจำเป็นต้องประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยต้องอาศัยฐานความยินยอมเป็นหลัก บริษัทจะดำเนินการขอความยินยอมจากท่าน โดยท่านมีสิทธิเพิกถอนความยินยอมดังกล่าวได้ทุกเมื่อผ่านช่องทางการติดต่อตามข้อที่ 8. บริษัทจะดำเนินการตามคำร้องขอดังกล่าวเว้นแต่จะมีเหตุในการปฏิเสธหรือข้อยกเว้น หรือข้อปฏิบัติตามกฎหมายระบุเอาไว้
  3. ฐานประโยชน์อันชอบธรรม (Legitimate Interest) บริษัทอาจประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อดำเนินงานที่จำเป็นภายใต้ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย อาทิ การบันทึกภาพวงจรปิด (CCTV) การแลกบัตรก่อนการเข้าพื้นที่บริษัท การจัดกิจกรรม การจัดสิ่งอำนวยความสะดวก สวัสดิการ การบริหารความเสี่ยง หรือการจัดการอื่นใดอันเป็นประโยชน์โดยชอบธรรมของบริษัทหรือของบุคคลอื่น
  4. ฐานประโยชน์สำคัญต่อชีวิต (Vital Interest) บริษัทอาจประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของเจ้าของข้อมูล อาทิ การติดต่อฉุกเฉิน การควบคุมป้องกันโรคติดต่อ
  5. ฐานหน้าที่ตามกฎหมาย (Legal Obligation) บริษัทอาจประมวลผลเพื่อปฏิบัติตามบทบัญญัติกฎหมาย กฎระเบียบ หรือคำสั่งผู้ที่มีอำนาจตามกฎหมาย อาทิ กฎหมายคุ้มครองแรงงาน กฎหมายแรงงานสัมพันธ์ กฎหมายประกันสังคม กฎหมายภาษีอากร กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ หรือกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานของบริษัท

 

ข้อ 6.  การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายใต้ขอบเขตที่จำเป็นตามวัตถุประสงค์ หรือที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการของบริษัท โดยบริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลแก่หน่วยงาน ดังต่อไปนี้

               6.1 บริษัทในเครือ บริษัทอาจส่งต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่านระหว่างบริษัทในเครือ ธรรมนิติ ด้วยกัน รวมไปถึงฝ่ายทรัพยากรบุคคล ผู้บังคับบัญชา ฝ่ายบริหาร ฝ่ายบัญชี ฝ่ายสารสนเทศ เพื่อการจัดการอย่างมีประสิทธิภาพและบรรลุตามวัตถุประสงค์ โดยจะเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวเพื่อวัตถุประสงค์ในการพิจารณาการสมัคร หรือการบริหารจัดการทรัพยากรบุคคลเท่านั้น

               6.2 หน่วนงานภาครัฐ หน่วยงานที่มีหน้าที่กำกับดูแลตามกฎหมาย อาทิ กรมสรรพากร สำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน กระทรวงพาณิชย์ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ธนาคาร ศาล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือหน่วยงานราชการอื่นที่เกี่ยวข้อง

               6.3 หน่วยงานอื่นๆ อาทิ สถาบันฝึกอบรมภายนอก บริษัทประกันภัย โรงพยาบาล (สำหรับสวัสดิการของบริษัท) เป็นต้น

 

ข้อ 7.  การรักษาความมั่นคงปลอดภัย

บริษัทมีมาตรการในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสมเพื่อป้องกันมิให้ข้อมูลสูญหาย การเข้าถึง ทำลาย ใช้ ดัดแปลง แก้ไข หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต ดังนี้

               7.1 บริษัทจำกัดคนเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลไว้สำหรับพนักงาน ลูกจ้าง ที่จำเป็นต้องทราบข้อมูลนั้นเพื่อทำการประมวลผลข้อมูลโดยที่บุคคลเหล่านั้นต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดการรักษาข้อมูลที่เป็นความลับตามสัญญาของบริษัทอย่างเข้มงวด

               7.2 ในกรณีที่ บริษัท ว่าจ้างบริษัทอื่นๆ เพื่อให้บริการในนามของบริษัทและมอบหมายให้บริษัทเหล่านั้นรับผิดชอบในการจัดการกับข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทจะเลือกผู้รับเหมาช่วงที่เหมาะสมและกำหนดให้บริษัทดังกล่าวลงนามในข้อตกลงทั้งหมดที่จำเป็นเกี่ยวกับการจัดการข้อมูลส่วนบุคคล

               7.3 การเข้ารหัส บริษัทใช้การเข้ารหัสแบบ Secure Sockets Layer (SSL) เพื่อให้แน่ใจได้ว่าการส่งผ่านข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นไปอย่างปลอดภัย

 

ข้อ 8. สิทธิของเจ้าของข้อมูล

ท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิตามกฎหมายดังต่อไปนี้ และในกรณีที่ท่านประสงค์ใช้สิทธิท่านสามารถแจ้งให้ทางบริษัททราบเป็นลายลักษณ์อักษร โดยกรอก แบบคำร้องขอใช้สิทธิเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล (Personal Information Request Form) และส่งมายังอีเมล This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it. เพื่อแจ้งความประสงค์ดังกล่าว

               8.1 สิทธิการเพิกถอนความยินยอม ท่านมีสิทธิในการเพิกถอนความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมกับบริษัท ได้ตลอดระยะเวลาที่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอยู่ในความครอบครองของบริษัท ทั้งนี้บริษัทจะแจ้งให้ทราบถึงผลของการเพิกถอนความยินยอมภายหลังจากที่บริษัทได้รับคำร้องขอเพิกถอนดังกล่าว

               8.2 สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิขอเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของบริษัทฯ รวมถึงขอให้บริษัทฯ เปิดเผยถึงการได้มาซึ่ง ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวที่ท่านไม่ได้ให้ความยินยอม

               8.3 สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิขอคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลในเวลาใดก็ได้ หากเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวมได้โดย   ได้รับยกเว้นไม่ต้องขอความยินยอม หรือเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการตลาดแบบตรง หรือบริษัทใช้    เพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ สถิติ ทั้งนี้บริษัทสามารถปฏิเสธคำร้องขอได้หากเป็นการจำเป็นเพื่อการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะของบริษัท หรือกรณีที่บริษัทแสดงให้       เห็นถึงเหตุอันชอบด้วยกฎหมายสำคัญยิ่งกว่า หรือเพื่อก่อตั้ง การใช้สิทธิเรียกร้อง การปฏิบัติตามกฎหมาย

               8.4 สิทธิในการโอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิที่จะขอรับข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับท่านในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานโดยทั่วไปได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติ รวมถึงมีสิทธิขอให้ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวของท่านไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลรายอื่น หรือตัวท่านเอง เว้นแต่โดยสภาพทางเทคนิคไม่สามารถทำได้ ทั้งนี้ ตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

               8.5 สิทธิในการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล ท่านอาจขอให้บริษัท ลบหรือทำลายหรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคล หากข้อมูลส่วนบุคคลของท่านหมดความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดหรือเมื่อท่านถอนความยินยอม

               8.6 สิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิขอให้ระงับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีที่บริษัท อยู่ระหว่างการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ท่านร้องขอ หรือกรณีข้อมูลส่วนบุคคลที่ต้องลบหรือทำลายแต่ท่านประสงค์ให้บริษัทระงับการใช้แทน หรือกรณีที่บริษัท ไม่มีความจำเป็นต้องใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอีกต่อไป แต่ท่านมีความจำเป็นและขอให้บริษัท เก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวเพื่อใช้ในการก่อตั้งสิทธิเรียกร้อง การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้อง หรือยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย

               8.7 สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง ท่านมีสิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง หากข้อมูลส่วนบุคคลของท่านนั้นไม่ถูกต้อง ไม่เป็นปัจจุบัน ไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ หรือก่อให้เกิดความเข้าใจผิด

               8.8 สิทธิในการยื่นข้อร้องเรียน ในกรณีที่บริษัทมีการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิยื่นข้อร้องเรียนต่อสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

ข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้จากคำร้องขอใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หรือ ตัวแทนของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทจะใช้ในการดำเนินการตามคำร้องขอของเจ้าของข้อมูลเท่านั้น โปรดทราบว่าทางบริษัทอาจมีการส่งต่อหรือเปิดเผยคำร้องดังกล่าวไปยังบริษัทในเครือธรรมนิติ เพื่อการปฏิบัติตามคำร้องของท่านอย่างมีประสิทธิภาพ โดยบริษัทจะเก็บรวบรวมจนกว่าการโต้แย้งหรือคำร้องดังกล่าวสิ้นสุดลง

 

ข้อ 9.  ติดต่อบริษัท

178 อาคารธรรมนิติ ซอยเพิ่มทรัพย์ (ประชาชื่น 20) ถนนประชาชื่น

แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ กรุงเทพมหานคร 10800

โทรศัพท์ : (02) 596-0500

โทรสาร : (02) 596-0539

อีเมล : This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.

 

หมายเหตุ:    

- อ้างถึงแนวทางการปฏิบัติ พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ..2562 ของบริษัท ธรรมนิติ จำกัด (มหาชน) เอกสารแนบท้ายประกาศที่ 013/2565 เรื่อง ประกาศนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และแนวทางการจัดการข้อมูลส่วนบุคคล บริษัท ธรรมนิติ จำกัด (มหาชน) ลงวันที่ 16 มิถุนายน 2565

- การเปลี่ยนแปลงประกาศความเป็นส่วนตัว ทางบริษัทอาจดำเนินการแก้ไขเพิ่มเติมประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้เพื่อให้สอดคล้อง ครอบคลุมตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือกฎหมายอื่น ๆ กำหนด ทั้งนี้ บริษัทจะประกาศบนเว็บไซต์พร้อมระบุวันที่แก้ไขเพิ่มเติมครั้งล่าสุด

วันที่แก้ไขล่าสุด 24 มกราคม 2567